Buscar



ALL TOO WELL




I walked through the door with you
The air was cold but something about it felt like home somehow and I
Left my scarf there at your sister's house
And you still got it in your drawer even now

ฉันเดินผ่านประตูเคียงข้างกับคุณ
อากาศค่อนข้างหนาว แต่บางสิ่งมันทำให้รู้สึกเหมือนตอนอยู่ที่บ้านด้วยวิธีใดก็ตาม
ฉันลืมผ้าพันคอทิ้งไว้ที่บ้านพี่สาวของคุณ
และคุณก็ยังเก็บมันเอาไว้ในลิ้นชักแม้กระทั่งตอนนี้


Oh, your sweet disposition
And my wide-eyed gaze
We're singing in a car getting lost Upstate
The autumn leaves falling down like pieces into place
And I can picture it after all these days
And I know it's long gone, and that magic´s not here no more
And it might be okay, but I'm not fine at all

โอ้  นิสัยหวานๆของเธอเนี่ย
ชอบจ้องตาโตๆของฉันเสียจริง
เราร้องเพลงกันอย่างมีความสุขขณะกำลังหลงทางอยู่ที่ตอนเหนือของมลรัฐ
ใบไม้ร่วงลงสู่พื้นอย่างสวยงามในฤดูของมัน
และฉันสามารถวาดภาพได้หลังจากทุกวันเหล่านี้
และฉันก็รู้ว่ามันนานมาแล้ว สิ่งต่างๆที่แสนวิเศษ มันไม่มีอีกต่อไปแล้วล่ะ
และมันอาจจะโอเคก็ได้ ใครจะไปรู้ , แต่ที่แน่ๆฉันไม่โอเคเลยสักนิด (ประมาณว่า ไม่เห็นด้วยเลย)



Cause here we are again on that little town street
You almost ran the red cause you were looking over at me
Wind in my hair, I was there, I remember it all too well

พราะที่นี่พวกเราเจอกันอีกครั้ง ในเมืองเล็กๆแห่งนี้
เธอเกือบจะผ่าไฟแดงเพราะเธอกำลังมองมาที่ฉัน
สายลมพัดเส้นผมให้พลิ้วไหว ฉันอยู่ที่นี่แล้ว และฉันก็จำทุกสิ่งทุกอย่างได้เป็นอย่างดี


Photo album on the counter
Your cheeks were turning red
You used to be a little kid with glasses in a twin-sized bed
And your mother's telling stories about you on the t-ball team
You tell me about your past thinking your future was me

อัลบั้มรูปถ่ายบนเคาน์เตอร์
แก้มของเธอเป็นสีแดงระเรื่อ
เธอเคยเป็นเด็กน้อยน่ารักชอบใส่แว่นตาบนเตียงคู่นั้น
และแม่ของเธอเล่าเรื่องราวมากมายที่เกี่ยวกับเธอ ตอนที่เธออยู่ทีม T-ball
เธอบอกฉันเกี่ยวกับอดีตที่เธอเคยคิด ในอนาคตของคุณอาจเป็นฉัน


And I know it's long gone, and there was nothing else I could do
And I forget about you long enough to forget why I needed to

และฉันก็รู้ว่ามันผ่านไปนานแล้ว และที่นี่ไม่มีอะไรที่ฉันสามารถจะทำได้
และฉันได้ลืมเรื่องราวของเธอไปแล้ว นานพอที่จะลืมว่าทำไมฉันถึงต้องการที่จะทำอย่างนั้น 


Cause here we are again in the middle of the night
We're dancing round the kitchen in the refrigerator light
Down the stairs, I was there, I remember it all too well
Yeah

เพราะว่าที่นี่ ทำให้เราได้เจอกันอีกครั้งในเที่ยงคืนของคืนนั้น
เราเต้นรำกันรอบๆห้องครัวด้วยแสงไฟที่ส่องจากตู้เย็น
ขณะที่เดินลงบันได ฉันอยู่ที่นี่แล้ว และฉันจำทุกสิ่งทุกอย่างได้เป็นอย่างดี
เย้


And maybe we got lost in translation
Maybe I asked for too much
But maybe this thing was a masterpiece
till you tore it all up
Running scared, I was there, I remember it all too well

และบางทีเราอาจจะหายไปในการแปล
บางที ฉันอาจจะขอมากเกินไป
แต่บางทีสิ่งนี้อาจจะเป็นผลงานชิ้นเอก
จนกว่าเธอจะฉีกมันทั้งหมด
วิ่งไปด้วยความหวาดกลัว ฉันอยู่ที่นี่ และฉันก็จำทุกสิ่งทุกอย่างได้เป็นอย่างดี



Hey you called me up again just to break me like a promise
So casually cruel in the name of being honest
I'm a crumbled up piece of paper lying here
Cause I remember it all all all too well

เฮ้ เธอเรียกฉันมาอีกครั้ง เพียงเพื่อทำลายฉันเหมือนสัญญา
ดังนั้นความเจ็บปวดก็คือชื่อของความซื่อสัตย์สินะ
ฉันบดขยี้แผ่นกระดาษเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและทิ้งมันไว้ที่นี่
เพราะฉันจำมันทั้งหมด ฉันจำทุกอย่างได้เป็นอย่างดี



Time won't fly it's like I'm paralyzed by it
I´d like to be my old self again
But I'm still trying to find it
After plaid shirt days and nights when you made me your own
Now you mail back my things and I walk home alone
But you keep my old scarf from that very first week
Cause it reminds you of innocence and it smells like me
You can't get rid of it, cause you remember it all too well Yeah

เวลาจะไม่เดินไปมันเหมือนฉันที่ไม่เคลื่อนไหว
ฉันต้องการจะเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง
แต่ฉันยังพยายามที่จะค้นหามัน
หลังจากวันที่ใส่เสื้อเชิ้ตลายสก็อต วันและคืน เมื่อเธอทำให้ฉันเป็นของเธอ
ตอนนี้เธอส่งของๆฉันทุกอย่างกลับมา และฉันเดินกลับบ้านเพียงลำพัง
แต่เธอเก็บผ้าพันคอของฉันเอาไว้จากสัปดาห์แรกที่เจอกัน
เพราะมันจะเตือนเธอถึงความ บริสุทธิ์ และ กลิ่นของมันที่เหมือนกับตัวฉัน
เธอไม่สามารถทิ้งมันไปได้หรอก เพราะเธอจดจำมัน จดจำทุกอย่างได้เป็นอย่างดี  



Cause there we are again when I loved you so
Back before you lost the one real thing you've ever known
It was rare, I was there, I remember it all too well

เพราะที่นี่ เรามีกันและกันอีกครั้ง เมื่อตอนที่ฉันรักกับเธอ
กลับไปก่อนที่เธอจะลืมสิ่งที่สำคัญที่เธอจะไม่มีวันรู้ได้เลย
มันเป็นสิ่งที่มีค่า(หายาก)  ฉันอยู่ที่นี่แล้ว และฉันก็จำได้ทุกอย่าง


Wind in my hair, you were there, you remember it all
Down the stairs, you were there, you remember it all
It was rare, I was there, I remember it all too well


สายลมพัดผ่านเส้นผมของฉัน เธออยู่ที่นี่แล้ว เธอจำทุกอย่างได้
ลงบันไดมา เธออยู่ที่นี่แล้ว เธอจำเรื่องราวทั้งหมดได้
มันเป็นสิ่งที่มีค่า ฉันอยู่ที่นี่แล้วนะ และฉันก็จำได้ทุกสิ่งทุกอย่างได้เป็นอย่างดี

From : http://www.siamzone.com/board/view.php?sid=3483777






Let me go





Avril Lavigne

Love that once hung on the wall
ความรักที่ครั้งหนึ่งเคยแขวนอยู่บนกำแพง
Used to mean something, but now it means nothing
เคยมีความหมายบางอย่าง แต่ตอนนี้ไม่มีความหมายอะไรเลยทั้งสิ้น
The echoes are gone in the hall
เสียงก้องในห้องโกงก็เงียบไป
But I still remember, the pain of December
แต่ฉันยังคงจำได้ กับความเจ็บปวดในเดือนธันวาคม
Oh, there isn’t one thing left you could say
ไม่มีอะไรเหลือให้คุณได้พูดอีกแล้ว
I’m sorry it’s too late
ฉันเสียใจด้วยนะ มันสายไปแล้ว
[Chorus]
I’m breaking free from these memories
ฉันจะได้เป็นอิสระจากความทรงจำเหล่านี้ซะที
Gotta let it go, just let it go
ต้องปล่อยมันไป แค่ปล่อยมันไป
I’ve said goodbye
ฉันได้บอกลาไปแล้ว
Set it all on fire
เผามันทิ้งไปให้หมด
Gotta let it go, just let it go
ต้องปล่อยมันไป แค่ปล่อยมันไป
[Chad Kroeger]
You came back to find I was gone
คุณกลับมาเพื่อมาพบว่าผมได้จากไปแล้ว
And that place is empty,
และที่แห่งนั้นมันว่างเปล่า
Like the hole that was left in me
เหมือนมีหลุมที่ถูกทิ้งว่างไว้ในตัวผม
Like we were nothing at all
เหมือนกับว่าเราไม่เคยมีกันมาก่อนเลย
It’s not what you meant to me
มันไม่ใช่ว่าคุณไม่มีความหมายกับผม
Thought we were meant to be
เคยคิดด้วยว่าเรานั้นเป็นคู่กัน
Oh, there isn’t one thing left you could say
ไม่มีอะไรเหลือให้คุณได้พูดอีกแล้ว
I’m sorry it’s too late
ฉันเสียใจด้วยนะ มันสายไปแล้ว
[Chorus]
I’m breaking free from these memories
ฉันจะได้เป็นอิสระจากความทรงจำเหล่านี้ซะที
Gotta let it go, just let it go
ต้องปล่อยมันไป แค่ปล่อยมันไป
I’ve said goodbye
ฉันได้บอกลาไปแล้ว
Set it all on fire
เผามันทิ้งไปให้หมด
Gotta let it go, just let it go
ต้องปล่อยมันไป แค่ปล่อยมันไป
I let it go and now I know
ฉันได้ปล่อยมันไปแล้วและตอนนี้ฉันรู้แล้วว่า
A brand new life is down this road
ชีวิตใหม่ มันอยู่ในอนาคตอันใกล้นี่เอง
And when it’s right, you always know
และเมื่อมันใช่ คุณก็จะรู้อยู่เสมอ
So this time I won’t let go
ดังนั้นครั้งนี้ฉันจะไม่ยอมปล่อยไป
There’s only one thing left here to say
มีเพียงสิ่งเดียวที่เหลือให้พูดได้คือ
Love’s never too late
ความรักไม่มีวันสายเกินไป
[Chorus]
I’ve broken free from those memories
ฉันเป็นอิสระจากความทรงจำเหล่านั้น
I’ve let it go, I’ve let it go
ฉันได้ปล่อยมันไปแล้ว ฉันได้ปล่อยมันไปแล้ว
And two goodbyes led to this new life
และการบอกลาของสองเรา นำมาสู่ชีวิตใหม่
Don’t let me go, don’t let me go
อย่าปล่อยฉันไป อย่าปล่อยฉันไป
Don’t let me go, don’t let me go, don’t let me go
อย่าปล่อยฉันไป อย่าปล่อยฉันไป อย่าปล่อยฉันไป
Won’t let you go, don’t let me go
จะไม่ให้คุณจากไป อย่าปล่อยฉันไป
Won’t let you go, don’t let me go
จะไม่ให้คุณจากไป อย่าปล่อยฉันไป

From: 
http://www.8ducationway.com/%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%87-let-me-go-%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87-avril-lavigne-featuring-chad-kroeger/



Let it go




.
The snow glows white on the mountain tonight
Not a footprint to be seen
A kingdom of isolation, and it looks like I’m the Queen
The wind is howling like this swirling storm inside
Couldn’t keep it in; Heaven knows I’ve tried
หิมะสีขาวเป็นประกายในราตรี
ไม่มีรอยเท้ายามที่มอง
ในดินแดนอ้างว้างร้างผู้คนมีเพียงเรานี้ที่ครอบครอง
ยังมีพายุซ่อนอยู่ภายในหมุนวนเวียนว่าย
ถึงต้านทานเท่าไหร่ฉันก็ห้ามไม่ได้
Don’t let them in, don’t let them see
Be the good girl you always have to be
Conceal, don’t feel, don’t let them know
Well now they know
อย่าเปิดใจไป, อย่าให้เขาเห็น
ต้องเป็นคนดีอย่างที่เขาสอนให้เป็น
ปกปิดในใจ, อย่าให้เขารู้
สุดท้ายก็รู้
Let it go, let it go
Can’t hold it back any more
Let it go, let it go
Turn away and slam the door
I don’t care
What they’re going to say
Let the storm rage on, the cold never bothered me anyway
ปล่อยมันไป, อย่างที่เป็น
ไม่อาจจะเก็บอีกต่อไป
ปล่อยออกมา, เลิกซ่อนเร้น
เดินกลับหลังหมดสิ้นเยื่อใย
ฉันไม่กลัว
ปล่อยให้เขาพูดไป
พัดให้โหมกระหน่ำ, ความหนาวไม่ทำให้เดือดร้อนซักเท่าไหร่
.
It’s funny how some distance
Makes everything seem small
And the fears that once controlled me
Can’t get to me at all
มองอะไรยามไกลห่าง
กลับเห็นเล็กลงไปเลย
ความหวั่นไหวที่คอยเข้าครอบงำ
กลับทำไม่ได้ดังเคย
It’s time to see what I can do
To test the limits and break through
No right, no wrong, no rules for me
I’m free
สิ่งใหม่ยังรอให้ลองให้รู้
จะไปสุดทางให้ใครได้ดู
ฉีกกฏซ้ำๆ, เลือกทำสิ่งใด
อย่างใจ
Let it go, let it go
I am one with the wind and sky
Let it go, let it go
You’ll never see me cry
Here I stand
And here I stay
Let the storm rage on
ปล่อยมันไป, อย่างที่เป็น
เชื่อมใจไปกับลมและฟ้า
ปล่อยออกมา, เลิกซ่อนเร้น
เผชิญมันด้วยความกล้า
ฉันจะยืน
ตรงนี้เรื่อยไป
พัดให้โหมกระหน่ำ
.
My power flurries through the air into the ground
My soul is spiraling in frozen fractals all around
And one thought crystalizes like an icy blast
I’m never going back
The past is in the past
พลังในการล่องลมลอยฟ้าลงมาสู่ดิน
พลังในใจแทรกในเกล็ดน้ำแข็งล้อมรอบกายไม่สิ้น
ผลึกความคิดผุดเป็นเกล็ดใสไร้ความกังขา
ไม่ขอคิดหวนคืนไป
ความหลังไม่อาจคืนมา
Let it go, let it go
When I’ll rise like the break of dawn
Let it go, let it go
That perfect girl is gone
Here I stand in the light of day
Let the storm rage on
The cold never bothered me anyway
เป็นตัวเรา, อย่างที่เป็น
ขอทะยานยังตะวันส่องฟ้า
ปล่อยออกมา, เลิกซ่อนเร้น
เด็กดีไม่เห็นมีค่า
ฉันจะยืนเด่นในแสงแรงกล้า
พัดกระหน่ำเข้าไป
ความหนาวไม่ทำให้เดือดร้อนซักเท่าไหร่

From: http://oil-jung-chinesesongs.blogspot.com/2013/01/zuobian-rainie-yang.html?m=1